ทำไมมุสลิมไม่กินหมู? แล้วอะไรอีกที่มุสลิมกินไม่ได้?

ทำไมมุสลิมไม่กินหมู?


  ใครที่ถามแบบนี้ถือว่าเป็นการตั้งคำถามที่ถูกต้องครับ เพราะมุสลิมไม่กินหมู แต่ถ้าใครถามว่า “ทำไมมุสลิมกลัวหมู?” แบบนี้ถือว่าตั้งคำถามผิดนะครับ เพราะมุสลิมไม่ได้กลัวหมู แต่คนไทยเรามักเข้าใจผิดๆโดยไปจดจำมาจากหนังตลกว่ามุสลิมกลัวหมู และต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนเมื่อเห็นหมู!


ส่วนคำตอบที่ว่าทำไมมุสลิมไม่กินหมูก็คือพระเจ้าสั่งห้ามนั่นเองครับ และสิ่งที่พระเจ้าสั่งห้ามก็ย่อมเป็นประโยชน์แก่มนุษย์อย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งในบางเรื่องนั้นมนุษย์ก็ไม่รู้เหตุผลด้วยซ้ำ หรือในบางเรื่องมนุษย์ก็สามารถค้นพบหาเหตุผลได้ด้วยกระบวนการศึกษาธรรมชาติหรือที่เรียกว่าวิทยาศาสตร์

        ยุคปัจจุบันมีการใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องดูเนื้อสัตว์ก็พบว่าเนื้อสัตว์ทุกชนิดมีพยาธิตัวเล็กๆที่ตามนุษย์มองไม่เห็นอยู่มากน้อยต่างกันไป แต่ในเนื้อหมูมีพยาธิบางชนิดซึ่งมีเกราะที่เกิดจากไขมันในเนื้อหมูห่อหุ้มมันอยู่ ซึ่งความร้อนจากการหุงต้มไม่สามารถทำลายมันได้ พยาธิเหล่านี้จะเข้าไปฝังอยู่ในร่างกายมนุษย์หลังจากที่กินเนื้อหมูเข้าไป และรอฟักตัวออกมาทำอันตรายร่างกายมนุษย์ เช่น ประสาทตาและประสาทสมอง เป็นต้น
        มุสลิมในยุคก่อนเขาไม่ทราบถึงเหตุผลเหล่านี้ แต่เขาน้อมรับและปฏิบัติตามข้อบัญญัติที่มาจากพระเจ้า และหมูเป็นสัตว์ที่น่ารังเกียจ(กินขี้และนอนคลุกอยู่กับขี้ของมัน)ซึ่งพระเจ้าระบุไว้ว่าเป็นสัตว์สกปรก(นะญิส) ก็เท่านั้น เพราะฉะนั้นไม่ใช่ว่ามุสลิมไม่กินหมูเพราะเหตุผลที่ว่าหมูมีพยาธิ ดังนั้นถึงแม้ในอนาคตจะสามารถทำให้เนื้อหมูปลอดจากพยาธิชนิดนี้ได้ หรือจะเลี้ยงหมูอย่างดีไม่ต้องให้กินขี้และนอนคลุกอยู่กับขี้ แต่มุสลิมก็จะยังคงไม่กินหมูอยู่ดีเนื่องจากเป็นสิ่งที่พระเจ้าบัญญัติห้าม
...แล้วถามว่าทำไมต้องห้ามน่ะหรือครับ? ก็เนื่องจากเป็นการพิสูจน์ความศรัทธาครับ มนุษย์ที่ศรัทธาในพระเจ้าเขาก็จะน้อมรับกฎระเบียบที่พระเจ้าบัญญัติไว้ เขาจะไม่กินตามปากอยาก แต่เขาจะเลือกกินโดยพิจารณาว่าพระเจ้าอนุญาตให้กินหรือไม่
...และอาจมีบางคนตั้งคำถามว่า ในเมื่อไม่ให้กินหมูแล้วพระเจ้าจะสร้างหมูมาทำไม? คืออย่างนี้ครับ พระเจ้าสร้างสิ่งมีชีวิตมาหลากหลายชนิด แต่ไม่ใช่ว่าสัตว์ทุกชนิด จะถูกสร้างมาเพื่อเป็นอาหารสำหรับมนุษย์นะครับ สัตว์บางชนิดเกิดมาเพื่อรักษาความสมดุลของระบบนิเวศน์ สัตว์บางชนิดถูกสร้างมาเพื่อกินสัตว์กินพืช ไม่เช่นนั้นแล้วสัตว์กินพืชก็จะกินใบไม้หมดป่า ซึ่งป่าไม้และพืชนั้นก็ทำหน้าที่ซับน้ำ, ผลิตออกซิเจน, รักษาชั้นบรรยากาศของโลก และยังเป็นอาหารให้มนุษย์ด้วย ทำนองนี้เป็นต้นครับ ดังนั้นเราจึงต้องเลือกครับว่าสิ่งใดพระเจ้าอนุญาตให้กิน สิ่งใดพระเจ้าไม่อนุญาตให้กิน ซึ่งในเรื่องของอาหารแล้ว สิ่งใดที่พระเจ้าไม่ได้บัญญัติห้ามสิ่งนั้นถือว่าอนุญาตให้กินได้โดยปริยายครับ
ส่วนสิ่งอื่นที่พระเจ้าบัญญัติห้ามกิน ได้แก่ 
1.)สิ่งมึนเมาทุกชนิด 
2.)เลือด 
3.)สัตว์บกที่ตายโดยไม่ได้ถูกเชือด 
4.)สัตว์บกที่ไม่ได้กล่าวนามพระเจ้าขณะเชือด 
5.)สัตว์บกที่ใช้กรงเล็บหรือเขี้ยวล่าสัตว์กินเป็นอาหาร 
6.)เนื้อลา 
7.)สัตว์ที่พระเจ้าระบุว่าเป็นสิ่งสกปรกน่ารังเกียจ(นะญิส) เช่น หมา 8.)อาหารใดก็ตามที่ได้มาโดยไม่ชอบธรรม เช่นขโมยมา หรือซื้อมาด้วยทรัพย์สินที่ได้มาโดยผิดหลักการศาสนา (เช่นเงินดอกเบี้ย เป็นต้น) ซึ่งทั้งหมดถูกบัญญัติในอัล-กุรอานและหะดีษทั้งสิ้น ..และนอกจากสิ่งที่กล่าวมาแล้วนี้รวมทั้งสัตว์น้ำทั้งหมดก็เป็นที่อนุญาตให้กินได้
       เห็นไหมครับว่าที่ว่ากันว่ามุสลิมไม่กินหมูนั้น ไปๆมาๆไม่ใช่แค่หมูนะครับที่มุสลิมไม่กิน ดังนั้นคงหายสงสัยแล้วสินะครับว่าทำไมมุสลิมจึงมักจะหาแต่ร้านที่เป็นร้านอาหารอิสลาม แต่เห็นกฎระเบียบเยอะอย่างนี้คุณคงว่าสิ่งที่ศาสนาอิสลามบัญญัติห้ามนั้นมีเยอะเหลือเกิน แต่ที่จริงหากคุณนับถือศาสนาพุทธน่าจะลองเปิดพระไตรปิฎกดูมั่งนะครับว่า จริงๆแล้วศาสนาพุทธห้ามกินอะไรบ้าง? ซึ่งหากจะให้ผมนำมากล่าวในหนังสือเล่มนี้ก็คงจะไม่ไหวแน่ เพราะมีเยอะมาก! หรือคนที่นับถือศาสนายิวหรือคริสต์ก็เช่นกันหากเขาจะปฏิบัติตามคัมภีร์ล่ะก็มีสัตว์หลายชนิดครับที่คัมภีร์ระบุว่าห้ามกิน และที่สำคัญไม่เคยมีใครถามเลยว่าทำไมชาวยิวและชาวคริสต์ ปัจจุบันกินหมูกันซะแล้ว? ทั้งๆที่ในไบเบิล พันธสัญญาเก่าได้ระบุไว้ชัดเจนว่าห้ามกินหมู! (ในบทเลวีนิติ)

ข้อมูลจาก จากหนังสือ "อิสลาม กับคำถามที่คุณอยากรู้คำตอบ" โดย ชาวต้นไม้


ทำไมอิสลามจึงห้ามกินหมู?
ตอบคำถามโดย ดร.ซากิร ไนค์
นะญาฮฺ แปลและเรียบรียง
คำถาม : ทำไมอิสลามจึงห้ามการกินหมู ?
คำตอบ : ความจริงแล้วเป็นที่ทราบกันดีว่า การบริโภคเนื้อหมู ได้ถูกห้ามในอิสลาม สิ่งที่จะกล่าวต่อจากนี้ จะอธิบายทัศนะต่างๆ ของข้อห้ามนี้
1. เนื้อหมูถูกห้ามในอัลกุรอาน
กุรอานนั้น ได้ห้ามการบริโภคเนื้อหมู ไม่น้อยกว่า 4 แห่ง ที่แตกต่างกัน มันถูกห้ามในซูเราะฮฺ 2:173 5:3 6:145 และ16:115
“ได้ถูกห้ามแก่พวกเจ้าแล้ว(สำหรับอาหาร) คือ เนื้อสัตว์ที่ตายเอง เลือด เนื้อสุกร และสัตว์ที่กล่าวนามอื่น จากอัลเลาะฮฺ (ขณะเชือด)” (อัลกุรอาน 5:3)
โองการกุรอานที่กล่าวมานี้ เป็นการเพียงพอแล้ว ที่จะทำให้มุสลิมคนหนึ่ง เชื่อมั่นว่า ทำไมเนื้อหมูจึงถูกห้าม

2. การบริโภคเนื้อหมูเป็นสาเหตุของโรคหลายชนิด
ผู้ที่มิใช่มุสลิม และผู้ที่ไม่เชื่อว่า การมีอยู่ของพระเจ้า จะเห็นด้วยเพียงแค่ ถ้าทำให้เชื่อ โดยผ่านทางเหตุผล ตรรกะ และวิทยาศาสตร์ การกินเนื้อหมูนั้น เป็นสาเหตุให้เกิดโรค ไม่น้อยกว่า 70 ชนิด ที่แตกต่างกัน ซึ่งบุคคลหนึ่ง จะสามารถมีหนอนพยาธิ (จากการกินเนื้อหมู) ที่แตกต่างกัน ได้หลายชนิด เช่น พยาธิตัวกลม พยาธิเข็มหมุด พยาธิปากขอ เป็นต้น หนึ่งในพยาธิที่อันตรายมากที่สุด ซึ่งศัพท์เฉพาะทาง เรียกว่า Taenia Solium หรือ พยาธิตัวตืด มันจะแฝงตัวอยู่ในลำไส้ เป็นเวลานาน เซลล์ไข่ของมัน จะเข้าตามกระแสเลือด และสามารถไปถึงทุกส่วนของร่างกาย ถ้ามันเข้าไปในสมอง ก็เป็นสาเหตุให้เกิดความจำเสื่อม ถ้ามันเข้าสู่หัวใจ ก็จะทำให้เกิดโรคหัวใจ ถ้ามันเข้าสู่ตาก็จะทำให้ตาบอด ถ้ามันเข้าสู่ตับ ก็จะทำให้ตับถูกทำลาย มันสามารถทำลายอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย
หนอนพยาธิตัวอื่นที่เป็นอันตราย ก็คือ Trichura Tichurasis ซึ่ง โดยทั่วไป มีความเข้าใจผิด เกี่ยวกับเนื้อหมูที่ว่า ถ้ามีการปรุงสุกเป็นอย่างดี ไข่ของมันก็จะตาย แต่ในงานวิจัย ที่น่าเชื่อถือในอเมริกา พบว่า จากยี่สิบสี่คน ที่ต้องทนทุกข์จากโรคพยาธิ Trichura Tichurasis มีจำนวนยี่สิบสองคน ที่ปรุงสุกเนื้อหมู เป็นอย่างดี นี่สามารถบ่งชี้ได้ว่า ไข่พยาธิชนิดนี้ ที่มีอยู่ในเนื้อหมู จะยังไม่ตาย ภายใต้อุณหภูมิ ที่ใช้ในการปรุงอาหารปกติ

3. เนื้อหมูก่อให้เกิดสร้างไขมัน
เนื้อหมูก่อให้เกิดการสร้างกล้ามเนื้อน้อยมาก และมีไขมันมาก เกินความจำเป็น ไขมันนี้ จะสะสมอยู่ในเส้นเลือด และเป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ จึงไม่แปลกใจเลยว่า มีคนอเมริกัน 50 เปอร์เซ็น ต้องทนทุกข์กับโรคความดันโลหิตสูง

4. หมูเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่สกปรกที่สุดในโลก
หมู เป็นสัตว์ที่สกปรกที่สุดในโลก มันใช้ชีวิต และเติบโต บนโคลน มูล และสิ่งสกปรกโสโครก เท่าที่ข้าพเจ้ารู้ มันเป็นสัตว์ที่กินซากสกปรกที่ดีที่สุด ที่พระเจ้าทรงสร้าง ในหมู่บ้านที่ไม่มีห้องน้ำสมัยใหม่ และชาวบ้านนั้น จะขับถ่ายสิ่งปฏิกูลในที่โล่ง บ่อยครั้งมากที่สิ่งขับถ่ายนั้น ถูกทำให้สะอาดโดยหมู
บางคนอาจโต้แย้งว่า แล้วอย่างในเมืองที่พัฒนาแล้ว อย่างออสเตรเลีย หมูถูกเลี้ยงอย่างสะอาด และถูกสุขลักษณะ แม้ว่าจะเลี้ยงหมูในคอก ที่ถูกสุขลักษณะเพียงใด แม้คุณจะพยายามอย่างหนัก ที่จะเลี้ยงพวกมันให้สะอาด แต่โดยธรรมชาติแล้ว มันก็ยังเป็นสัตว์ที่สกปรกอยู่ดี พวกมันจะกิน และสนุกกับมูลของมัน เหมือนกับที่สนุก กับสิ่งขับถ่ายใกล้เคียง ของพวกมัน

5. หมูเป็นสัตว์ที่มีความอายน้อยที่สุด
หมูเป็นสัตว์ที่มีความอายน้อยที่สุด ในหน้าแผ่นดิน บนโลกนี้ มันเป็นสัตว์ที่เชิญชวนตัวอื่น ให้ร่วมเพศกับคู่ของมัน ในอเมริกา ผู้คนส่วนมากรับประทานเนื้อหมู บ่อยครั้งมาก หลังจากการเต้นรำ และงานรื่นเริง พวกเขาจะแลกเปลี่ยนคู่ภรรยากัน หลายคนพูดว่า “นายนอนกับภรรยาของฉัน และฉันจะนอนกับภรรยาของนาย” (เนื่องจากผู้รับประทานเนื้อสัตว์ชนิดใด จะได้รับอิทธิพลจากพฤติกรรมของมัน)
ถ้าคุณกินเนื้อหมูแล้ว ก็จะมีพฤติกรรมเหมือนหมู เราคนอินเดียมองอเมริกาว่า ทันสมัย และกร้านโลกมาก อย่างไรก็ตามสิ่งที่พวกเขาทำนั้น เราก็ทำตามหลังเขาไม่กี่ปี อย่างในบทความของแม็กกาซีน Island ที่บอกว่าพฤติกรรมการแลกเปลี่ยนคู่ภรรยานี้ จะกลายเป็นสิ่งปกติในสังคมผู้ร่ำรวย ในบอมเบย์ (เนื่องจากพวกเขากินอยู่ เหมือนคนตะวันตก)

ที่มา http://www.fityah.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น